เดินทางเข้าเมืองจากสนามบินบาร์เซโลน่า








เมื่อเครื่องบิน ทิ้งดิ่ง เอ้ย แลนดิ้งที่สนามบินบาร์เซโลน่าแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางเข้าเมือง
จากที่ถามกู๋ (google) มาแล้วว่าจะเดินทางไปยังที่พักยังไง
กู๋ก็บอกว่าให้นั่งรถเมล์​ aerobus ไปนะ แล้วไปลงที่สถานีชื่อนี้


พอมาถึงจริง ๆ แล้ว บอกเลย งงมาก!! กับป้ายบอกทางเนี่ย กู๋บอกให้ไปรถเมล์สาย A1
แต่ป้ายที่สนามบิน อะไร ยังไง ตรงไหน คือ A1 ไปเดิน ๆ วนหา ๆ หาไม่เจอ!
ไปถามชาวสเปน ก็ตอบเป็นภาษาสเปนมา พอเราทำหน้าไม่เข้าใจ
แกเลยชี้ลิฟท์ แล้วทำท่าว่าขึ้นไปชั้นบนนะ

สุดท้าย ถ้าจะนั่งรถเมล์ aerobus เพื่อความสะดวกให้ไปที่ tourist information เคาท์เตอร์
ถ้าผ่าน immigration หรือ ตม. ออกมาแล้วจะอยู่ทางขวามือ ไม่ใหญ่มาก
จ่ายเงินตรงนั้นประมาณ 5.9 euro แล้วพนักงานจะบอกว่าไปขึ้นรถได้ตรงไหน
โถ..ลากกระเป๋าสามสิบโล แบกเป้อีกเกือบสิบโล ไปมาอยู่ได้เรา...
tourist information

พอได้ใบเสร็จมาแล้ว ก็หันหลังให้ tourist information แล้วเดินไปยังบันไดเลื่อนที่สอง
บันไดเลื่อนแรกบอกไว้ชัดเจนว่าสำหรับคนจะลงไปเรียกแท๊กซี่

บันไดเลื่อนที่สองบอกว่าไป Bus
แต่ความผิดพลาดของข้าพเจ้าคือ ครั้งแรกดันไปลงฝั่งซ้ายมือ ไม่ใช่ขวามือ
เลยไม่เจอ aerobus ฮี่ ๆ



พอลงบันไดเลื่อนมา ก็จะเจอ aerobus
ก็ไปยืนต่อแถวเขา พนักงานจะเดินมาเอาใบเสร็จไป แล้วไปพิมพ์เป็นตั๋วให้
พอจะขึ้นรถ ก็จะมีพนักงานอีกคนเรียกดูตั๋ว
เก้าอี้ใน aerobus

ระหว่างทางเข้าเมือง




แต่!! ชีวิตคุณหนูจากญี่ปุ่น ก็กลับตาลปัตรอีกแล้ว
จากที่เวลาไปไหนมาไหนในญี่ปุ่น ถ้าขึ้น limousine bus เราจะวางกระเป๋าไว้ข้างที่รอรถ
พอรถมา พนักงานก็จะเอาเข้าไปไว้ในท้องรถให้ สบาย ๆ เราเองก็เดินตัวปลิวขึ้นรถไป

แต่ที่นี่! รถไม่มีท้องรถจ้า แล้วรถก็สูงจากพื้นพอสมควร
คือจะเดินลากจากพื้นถนน เข้าไปในรถเลย ทำไม่ได้ ต้องยกดิ
พอเห็นรถมาเทียบจอดนี่กุมขมับเลย หา!! จะยกไหวเหรอ บนหลังสิบโล เป๋าเดินทางอีกสามสิบ
ไม่มีพนักงานมาช่วยยก พนักงานที่ตรวจตั๋วก็ตรวจตั๋วอย่างเดียว

สุดท้ายก็ฮึดพลังแรมโบ้ ดึงมันขึ้นไปบนรถจนได้


พอนั่งรถเมล์มาถึงจุดลงรถ ก็ลากเป๋าลงรถ แล้วก็ตุเลง ๆ
พามันไปลง metro รถใต้ดิน ...

ณ จุดนี้ ถ้าทำได้ อยากจะนั่งลงกับพื้น แล้วครวญคราง
แต่กลัวจะเสียภาพพจน์ เลยได้แต่ทำใจ แล้วก็บอกตัวเองว่า
เอาเหอะ อีกอึดใจหนึ่ง ...  คือ ทางลง metro ที่เห็นไม่มีบันไดเลื่อน!!
บันไดธรรมดา ๆ นี่แหละ ลากกระเป๋าลงไปเล้ยยย
มองไป ซ้าย ขวา หาทางลงอื่นใกล้ ๆ มองไม่เห็นอีก
โถชีวิต ... ลากกระเป๋าใบบิ๊กเบิ้ม ลงบันไดไป ลึกพอสมควร
ในใจก็คิดว่า อย่านะ ล้ออย่าพังนะ เพี้ยง ๆ ใจแข็งไว้ลูก
ลากลงบันไดได้สำเร็จ แล้วก็มาเจอ เคราะห์ซ้ำกรรมซ้อน
มันให้ยกขึ้นบันได้อิ๊ก ... หมดพลังและหมดแรง ที่จะคิดอะไรทั้งสิ้น
ลากไปเถอะ ยกไปเถอะ ...

สุดท้าย ๆ ลาก ๆ ยก ๆ แขนล้าและปวดมาจนตอนนี้

บทเรียนเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
จะไม่พกสัมภาระให้หนักขนาดนี้อีกแล้ว หรือ นั่งแท๊กซี่จากสนามบินโลด!
ถึงจะแพงกว่า แต่ถ้ากระเป๋าล้อพังจะอนาถกว่านี้ แล้วไม่เจ็บปวดร่างกายด้วย เฮ่อ ๆ เอวัง

Comments